เชื่อว่าคนไทยคงรู้จักคุ้นเคยกับกระดังงามานานแล้ว ดอกกระดังงา เป็นดอกไม้สีเหลืองกลีบ ยาวๆ ส่งกลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่วยามได้อยู่ใกล้ๆ ต้น แม้ดอกจะร่วงโรยสักเพียงไหน ก็ตาม ซึ่งในภาษาไทยของเรามีถ้อยคำสำนวนที่คนไทยคุ้นเคยได้ใช้กันมานาน ซึ่งมีกำเนิดมาจากความช่างสังเกตของคนไทยที่มีต่อต้นไม้ ดอกไม้และมักจะหยิบ เอาลักษณะเด่น หรือความพิเศษออกมาเปรียบเทียบกับลักษณะของอย่างอื่นหรือของมนุษย์ ทำให้เราต่างก็คุ้นเคยและเข้าใจความหมายของสำนวนที่มาจากต้นไม้หรือดอกไม้นั้นได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างของสำนวน “กระดังงาลนไฟ” ที่คนไทยส่วนใหญ่จะเข้าใจความหมายเชิงเปรียบเทียบของสำนวนนี้เป็นอย่างดี ว่าหมายถึง ” หญิงที่เคยแต่งงานหรือผ่านผู้ชายมาแล้ว และย่อมที่จะรู้จักการปรนนิบัติและเอาอกเอาใจผู้ชายได้ดีกว่าผู้หญิงที่ยังไม่เคยแต่งงาน”
กลิ่นอายความหอมของดอกกระดังงา ทำให้กลายมาเป็นสำนวน กระดังงาลนไฟ ยังเป็นที่รู้จักและใช้กันแพร่หลายในสังคมไทยทั้งในอดีตและคงทนมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังมีผู้นำไปแต่งเป็นบทเพลงที่ได้รับความนิยมนำไป ขับร้องกันไม่น้อย ดังท่อนหนึ่งของเนื้อร้องเพลงนี้ที่จดจำกันได้ดีคือ…. “ดอกเอ๋ย เจ้าดอกกระดังงา กลิ่นของเจ้าจะมีค่าเมื่อถูกนำมาลนไฟเอย…”
คนทั่วไปรู้จักชื่อ ของกระดังงาเป็นอย่างดีจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าคนไทยส่วนใหญ่จะไม่เคย รู้จักต้นกระดังงาก็ตาม และยังทราบว่าดอกกระดังงาจะมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษเมื่อมีการนำมาลนไฟ ทำให้ดอกกระดังงาจึงเป็นต้นไม้หรือดอกไม้พิเศษอีกชนิด หนึ่งของคนไทย ที่เหมือนจะไม่รู้จักแต่กลับให้ความรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างดี ส่วนมันหอมระเหยจากกระดังงายังใช้ทำน้ำหอม และนำมาแต่งกลิ่นเครื่องสำอาง ใช้แต่งกลิ่นขนมหรือ อาหารให้มีกลิ่นหอมน่ากิน ซึ่งสมัยก่อนมีการนำดอกกระดังงา มาอบกลิ่นหอมให้กับขนมไทย โดยใช้วิธีนำดอกกระดังงาแก่จัดสดๆ มาลนเปลวไฟจากเทียนเพื่อให้ต่อมน้ำหอมในกลีบดอกแตกออก และส่งกลิ่นหอมออกมามากกว่าปกติ จากนั้นนำไปเสียบไม้ลอยน้ำในภาชนะปิดสนิท ๑ คืน สามารถนำน้ำนั้นไปคั้นกะทิ หรือ ทำน้ำเชื่อมปรุงขนมหวานต่อไปได้ ซึ่งเทคนิควิธีการนำดอกกระดังงามาลนไฟนั้นก็เพื่อเพิ่มกลิ่นของความหอมขึ้นมาอีกเท่าตัว และยังคงเป็นต้นตอของสำนวนไทย “กระดังงาลนไฟ” ที่กล่าวมาข้างต้นอีกด้วย
คนไทยในอดีตยังนำดอกกระดังงาไปทอดในน้ำมันมะพร้าว เพื่อนำน้ำมันไปใส่ผมอีกด้วย ซึ่งมีผลทำให้ลดกลิ่นแรงๆ ของน้ำมันมะพร้าวและเป็นการเพิ่มความหอมของกลิ่นอายกระดังงาเข้าไปแทน
-
น้ำหอม Jadoer Eau de Parfum ตำนานแห่งความหอมเสน่ห์แห่งความหรูหรา เป็นน้ำหอมของคุณผู้หญิงที่มีความโดดเด่นและให้สัมผัสกลิ่นที่หรูหรา เย้ายวน เป็นกลิ่นของผู้หญิงอย่างแท้จริง เป็นการผสมผสานของมวลหมู่ดอกไม้ที่ผ่านการคัดสรรอย่างประณีต เพื่อมาส่งมอบให้สาว ๆ ได้ กระตุ้นและช่วยสร้างความมั่นใจในตัวที่ซ่อนอยู่ภายในให้ออกมา กับการสัมผัสและปล่อยกลิ่นอันทรงพลัง ที่มีเสน่ห์ล้ำลึกและเย้ายวนชวนฝันได้อย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยส่วนผสมที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีที่ผสมผสานกันออกมาเป็นกลิ่นที่ลงตัว
-
น้ำหอม Coco Eau de Parfum กลิ่นแห่งความเซ็กซี่ น่าสัมผัสและน่าค้นหา มีกลิ่นหอมอ่อนโยน ของดอกไม้ที่บ่งบอกให้รู้ว่า เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ชวนให้หลงใหล แบบไม่มีวันลืม ด้วยการผสมผสานของดอกไม้นานพันธุ์ ที่จะมาช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับความหอมของตัวคุณ เพื่อสัมผัสที่หอมกรุ่นไปทั่วอาณาบริเวณ บ่งบอกความเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ และความดึงดูด ของยุคสมัยใหม่ เป็นกลิ่นที่ผสมผสานของดอกมะลิ เพื่อให้เกิดกลิ่นที่เย้ายวนใจชวนน่าหลงใหล จนใครๆ จะต้องเลียวหลังมอง
-
น้ำหอม Ylang-Ylang Eau de Parfum กลิ่นดอกกระดังงาหอมแบบสะพรึงเอกลักษณ์เฉพาะกลิ่น หลายๆ คนที่ชอบกลิ่นของดอกกระดังงาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คงจะสะใจกับกลิ่นหอมหวานลึกล้ำ เย้ายวน โดยเฉพาะเพราะกลิ่นนี้ถือได้ว่าเป็นกลิ่นที่หอมรัญจวนใจ ที่ใครหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า กระดังงาลนไฟ ซึ่งก็หมายถึง เสน่ห์ความหอม เย้ายวน และเซ็กซี่ของแม่หม้าย ที่ให้ความหอมแบบสะพรึง หอมแบบแบ่งปันให้คนรอบข้างได้สัมผัสกลิ่นหอมอันเย้ายวน ของเสน่ห์ ที่น่าหลงใหล เกินห้ามใจจริงๆ