หนุ่มๆ มีวิธีเลือกน้ำหอมอย่างไรให้ “โดน”
น้ำหอมสำหรับฉีดผิวกายนั้นมีหลากหลายประเภท หลายเกรด โดยประเภทที่ติดทนและมีกลิ่นแรงที่สุดก็คือ เกรด Eau de Parfum ซึ่งกลิ่นน้ำหอมเกรดนี้ในท้องตลาดส่วนใหญ่จะเป็นกลิ่นหอมๆ ของผู้หญิงมากกว่า ส่วนของคุณผู้ชายมักจะเป็นเกรดอื่นที่กลิ่นอ่อนหรือเจือจางกว่า ซึ่งมักจะเป็น Eau de Toilette หรือ Eau de Cologne ซึ่งน้ำหอมสำหรับผู้ชายยังมีแบบอาฟเตอร์เชฟที่ใช้หลังโกนหนวด ซึ่งจะมีกลิ่นบางเบาและเจือจาง แต่ติดทนน้อยที่สุด หากหนุ่มๆต้องการเลือกน้ำหอมให้โดนใจและติดทนนานจะต้องเลือกอย่างไรนะ?
แต่ละคน มีบุคลิกหรือไลฟ์สไตล์ หน้าที่การงาน ความเป็นอยู่ ที่แตกต่างกัน ก่อนซื้อควรเลือกทดสอบกลิ่นที่ชอบลงบนผิวหนังเสียก่อน แล้วสังเกตว่ากลิ่นที่ได้นั้นเหมาะกับตัวเองหรือไม่? ดมแล้วชอบหรือไม่? หากชอบจึงค่อยเลือกซื้อแต่ว่าหนุ่มๆ แต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกัน การที่กลิ่นหอมๆ จะทำปฏิกิริยากับผิวหนังก็อาจจะแตกต่างกันไปด้วย หากเป็นหนุ่มผิวมัน กลิ่นจะติดดีและแรงกว่าคนผิวแห้ง
ลองถามใจตัวเองว่าชอบกลิ่นที่ทดลองหรือไม่? สังเกตจากลำดับขั้นของกลิ่นคือ Top Note, Middle Note และ Base Note ซึ่งในทางปฏิบัตินั้น การเลือกซื้อคงทดสอบได้แค่กลิ่น Top Note เท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะดูจากสัมผัสแรกของกลิ่นมากกว่าว่า ถูกใจหรือไม่และดูว่าความรู้สึกที่ได้กลิ่นครั้งแรกนั้นให้ความรู้สึกเช่นไร บางคนบุคลิกขรึมๆ อาจเลือกใช้น้ำหอมกลิ่นเข้มๆ หรือบางคนชอบกลิ่นสดชื่น สะอาดๆ ก็อาจเลือกใช้แนว Sport ได้
การเลือกน้ำหอมให้เหมาะกับโอกาสและสถานที่ จะต้องหมั่นสังเกตเรื่องการติดทนของกลิ่นด้วย หากอยู่ในช่วงเล่นกีฬา หรือออกไปพบลูกค้านอกสถานที่ อาจจะฉีดน้ำหอม 1-2 ครั้งต่อวัน เพราะการออกไปข้างนอกและต้องเจอมลพิษ สภาวะแวดล้อมเปลี่ยน ทำให้อุณหภูมิร่างการและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงเช่นกัน ส่งผลต่อการแสดงออกของกลิ่น รวมถึงคุณสมบัติการติดทนก็จะเปลี่ยนไปด้วย หรือหากต้องไปงานในโอกาสพิเศษๆ อย่างการดินเนอร์หรูๆ กับแฟนก็อาจจะเลือกกลิ่นพิเศษที่หนุ่มๆ ชอบไว้ด้วย การเลือกน้ำหอมสำหรับใช้งานอาจจะไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้กลิ่นเดียวซ้ำๆ ควรเลือกน้ำหอมหลายๆกลิ่นไว้ใช้งาน เพราะจะช่วยลดความจำเจ น่าเบื่อ แถมยังมีตัวช่วยในการเลือกเพิ่มสำหรับใช้ในแต่ละโอกาสและสถานที่ รวมถึงช่วยเพิ่มความมั่นใจให้พร้อมรับปัญหาต่างๆในแต่สถานการณ์ได้ด้วย
การเลือกซื้อน้ำหอม อย่าลืมพิจารณาทางด้านปัจจัยของสภาวะแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลโดยตรงต่อกลิ่นที่อาจเปลี่ยนไป รวมทั้งคุณสมบัติการติดทนของกลิ่น อย่างช่วงหน้าหนาวที่อากาศหนาวเย็น จะส่งผลให้กลิ่นของน้ำหอมอ่อนลง ยิ่งหนาวกลิ่นก็ยิ่งจางและติดได้ไม่ทน แต่หากเป็นหน้าร้อน อากาศร้อนก็จะไปกระตุ้นให้ร่างกายขับเหงื่อมากกว่าปกติ โดยอาจทำปฏิกิริยาโดยตรงกับน้ำหอมที่คุณใช้ ส่งผลให้กลิ่นกายในช่วงหน้าร้อนจะฉุนมาก ทำให้การเลือกซื้อหรือเลือกใช้น้ำหอมจะต้องพิจาณาถึงฤดูการ หรืออุณหภูมิด้วย
