ย้อนเวลาไปสัมผัสกลิ่นอายหลากสีสันของเสื้อกันฝนในวัยเด็ก
ช่วงนี้มีสายฝนโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย เพราะยังคงอยู่ในช่วงเวลาของหน้าฝนที่ยาวนาน ทำให้ได้กลิ่นอายของฤดูฝนที่เต็มไปด้วยความชุ่มฉ่ำ ซึ่งหากเป็นช่วงกลางคืนก็คงจะรู้สึกถึงอากาศที่เย็นสบาย แต่หากเป็นช่วงเวลากลางวันก็อาจจะทำให้ชีวิตต้องเจอกับสายฝนที่เทลงมาอย่างบ้าระห่ำ ซึ่งทำให้หลายๆ ชีวิตลำบากไม่น้อย
ภาพของคนเมืองที่ได้เห็นกันบ่อยๆ ตามท้องถนนทั่วไป ในช่วงเวลาฝนตกก็คือ คนกางร่ม และสวมเสื้อกันฝนหลากสี เมื่อมองออกไปไกลๆ จะเห็นภาพองค์รวมที่แสนสวยงาม ราวกับงานศิลปะโดยรวมกับกลิ่นอายของสายฝน หากเป็นตามต่างจังหวัดที่อยู่ในแถบพื้นที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ เวลาที่ฝนตก มักจะเห็นภาพของเด็กๆ เล่นน้ำฝนอย่างสนุกสนาน
ด้วยวิถีชีวิตของคนเมืองที่จะต้องเดินทางไปทำงานแต่เช้า และเดินทางกลับบ้านพร้อมกับการเปียกฝนแทบทุกวัน ทำให้คนส่วนใหญ่จำเป็นต้องหาตัวช่วยอย่างร่มหรือเสื้อกันฝนกันมากขึ้น โดยจะมีเสื้อกันฝนที่เป็นแบบใช้แล้วทิ้งที่มีให้เลือกหลากสีสัน ทำให้หลายคนยอมพกพาสำหรับใช้งานเฉพาะหน้า นอกจากจะน้ำหนักเบาแล้ว ราคายังถูกด้วย
การหาซื้อชุดกันฝนสมัยนี้เป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ เพียงเข้าร้านสะดวกซื้อ หรือมินิซุปเปอร์ก็สามารถเลือกซื้อเพื่อนำมาใช้งานได้แล้ว สามารถหามาติดตัวได้ง่ายๆ ส่วนใหญ่จะเลือกแบบเต็มตัวมากกว่าสำหรับผู้ใหญ่ เพราะแม้จะดูเทอะทะแต่ก็สามารถตากฝนโดยที่ไม่เปียกหรือครอบคลุมร่างกายได้มากกว่าแบบครึ่งตัว เมื่อเทียบกับเด็กๆ ที่เลือกแบบคลุมแค่หัวเขาก็พอ
แต่จะว่าไปเมื่อพูดถึงเสื้อกันฝนทีไร เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะนึกถึงวัยเด็กที่พ่อแม่มักจะเตรียมเสื้อกันฝนใส่กระเป๋านักเรียนไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นก่อนเข้าเรียนหรือหลังเลิกเรียน ช่วงหน้าฝนเรามักจะได้เห็นเด็กๆ ใส่เสื้อกันฝนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เพราะเด็กๆ จะรู้สึกดีใจมากกว่าที่ได้สวมชุดหลากสีสัน มีลวดลายการ์ตูนดูเหมือนชุดแฟนซี
กลิ่นอายความสดใสร่าเริงที่มาพร้อมสายฝนยามเมื่อเด็กๆ ได้สวมชุดกันฝน บางคนมาแบบพรอพจัดเต็มพร้อมร่มโทนสีเดียวกัน ยิ่งได้เจอเพื่อนๆ ที่ได้สวมเสื้อกันฝนด้วยแล้ว ยิ่งทำให้หัวใจของเด็กๆ พองโตขึ้นมา เพราะรู้สึกเหมือนว่ากำลังแข่งเดินแบบอยู่บนแคทวอล์ค หรือรันเวย์ที่เต็มไปด้วยดีไซน์ของแฟชั่นในธีมเสื้อกันฝนยังไงยังงั้น
