สาระน่ารู้

มารู้จักเครื่องหอมไทย ๆ กลิ่นโบราณพร้อมอนุรักษ์..ก่อนที่จะสูญหายกันดีกว่า…

มารู้จักเครื่องหอมไทย ๆ กลิ่นโบราณพร้อมอนุรักษ์..ก่อนที่จะสูญหายกันดีกว่า...

เพราะเครื่องหอมไทย เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน แต่ในปัจจุบันเริ่มจะเลือนรางหายไปบ้างแล้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาบ้านเรา ทำให้คนในยุคดิจิตอลหันไปใช้เครื่องหอมๆ จากน้ำหอมฝรั่ง ทำให้น้ำปรุงหรือเครื่องหอมไทยโบราณ เริ่มจะหายากขึ้นทุกที ซึ่งเครื่องหอมไทยๆ นั้นสามารถนำมาใช้ได้หลากหลายรูปแบบ เพราะเหตุนี้มีหน่วยงานทั้งทางภาครัฐและเอกชนที่เล็งเห็นความสำคัญและความมีศักยภาพของเครื่องหอมไทย จึงได้มีการอนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญานี้ไว้ วัตถุประสงค์หลักก็เพื่อให้ลูกหลานได้รู้จักและมีโอกาสได้สัมผัสกับกลิ่นหอมแบบไทยๆ ซึ่งอาจจะมีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีคุณค่า หรือก้าวไปสู่การผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่คงความหอมในชั้นแถวหน้าต่อไป

มารู้จักเครื่องหอมไทย ๆ กลิ่นโบราณพร้อมอนุรักษ์..ก่อนที่จะสูญหายกันดีกว่า...

ดินสอพอง
คนไทยโบราณนิยมนำเอา “ดินสอพอง” มาผสมกับน้ำหอมแล้วหยอดเป็นเม็ดเล็กๆ เก็บไว้ เมื่อต้องการใช้ก็จะนำมาละลายน้ำ แล้วใช้ทาตามเนื้อตามตัว ถือเป็นการประทินผิวช่วยคลายร้อน และยังมีกลิ่นหอมติดตัวตลอดทั้งวันอีกด้วย

มารู้จักเครื่องหอมไทย ๆ กลิ่นโบราณพร้อมอนุรักษ์..ก่อนที่จะสูญหายกันดีกว่า...

แป้งร่ำ
“แป้งร่ำ”เป็นแป้งหินหรือแป้งนวลที่มีการผสมเครื่องหอมด้วยกรรมวิธีแบบดั้งเดิม เพื่อใช้ผสมกับน้ำอบเพื่อทำเป็นแป้งกระแจะ สำหรับใช้ในการเจิม หรือใช้ทาผิวหลังอาบน้ำ สำหรับใช้ผัดหน้า ทาตัว เพื่อทำให้หอมสดชื่น

มารู้จักเครื่องหอมไทย ๆ กลิ่นโบราณพร้อมอนุรักษ์..ก่อนที่จะสูญหายกันดีกว่า...

แป้งพวง
“แป้งพวง”เป็นการนำแป้งร่ำมาหยอดบนเส้นด้ายแล้วนำมารวมกันเป็นพวงๆ เป็นการนำแป้งเหล่านั้นมาผูกกับดอกไม้ สำหรับนำมาใช้ทัดหู และแต่งผม หรือปักมวยผม จะได้กลิ่นหอมๆ สวยงาม ใช้สำหรับเป็นของชำร่วยและใช้ติดเสื้อได้อีกด้วย

มารู้จักเครื่องหอมไทย ๆ กลิ่นโบราณพร้อมอนุรักษ์..ก่อนที่จะสูญหายกันดีกว่า...

บุหงารำไป
“บุหงารำไป” เป็นเครื่องหอมไทยๆ ที่ทำได้ง่ายและใช้เวลารวดเร็ว นิยมทำในช่วงที่มีดอกไม้บานสะพรั่ง ซึ่งบรรจุในผ้าโปร่งหรือภาชนะจักสาน ทำให้มองเห็นสีสันของกลีบดอกไม้ชนิดต่างๆ ที่นำมาปรุงรวมกันมีสีสันตัดกันสวยงาม และมีกลิ่นหอมเย็นชื่นใจ “บุหงาสด” เป็นการนำดอกไม้สดหอม ใบไม้ และสมุนไพรหอมชนิดต่างๆ คลุกกับหัวน้ำมันหอม สารตรึงกลิ่น อย่างละเล็กละน้อย นำมาผสมคลุกเคล้ารวมกัน นำไปใส่ในบรรจุภัณฑ์ ส่วน “บุหงาแห้ง” เป็นการนำดอกไม้สดหอม ใบไม้ และสมุนไพรหอมชนิดต่างๆ ที่นำไปผ่านกรรมวิธีทำให้แห้งสะอาด จากนั้นนำไปคลุกเคล้าหัวน้ำมันหอม และสารตรึงกลิ่น เพื่อให้ได้กลิ่นที่ชื่นชอบและนำไปใส่ในบรรจุภัณฑ์ ส่วน “บุหงาหมัก” เป็นการนำดอกไม้สดหอม รวมกับดอกไม้แห้งหอมมาผสมแอลกอฮอล์ ผงไม้หอมและน้ำมันหอม จากนั้นนำไปหมักในภาชนะทึบแสง เก็บไว้ประมาณ 8 สัปดาห์ เมื่อส่วนผสมต่างๆ เข้าด้วยกัน จึงนำไปใช้บรรจุทำเครื่องหอมต่อไป

มารู้จักเครื่องหอมไทย ๆ กลิ่นโบราณพร้อมอนุรักษ์..ก่อนที่จะสูญหายกันดีกว่า...

น้ำปรุง
“น้ำปรุง” เป็นการนำหัวน้ำหอมสกัดนำมาผสมกัน ซึ่งเป็นน้ำหอมของคนโบราณไว้ชโลมตัวให้มีกลิ่นหอม มีส่วนผสมของดอกไม้หอมหลากหลายชนิด และสมุนไพรไทย ไม่ว่าจะเป็นผิวมะกรูด พิมเสน หรือใบเตย เป็นน้ำหอมไทยที่มีความแตกต่างไปจากน้ำหอมฝรั่ง เพราะช่วยบำรุงสุขภาพด้วย

นอกจากนี้ยังมี น้ำดอกไม้สด ,น้ำอบไทย ที่มีกลิ่นหอมชื่นใจ อย่างกลิ่นดอกแก้ว กลิ่นพิกุล กลิ่นจันทน์กะพ้อ กลิ่นลำเจียก กลิ่นมะลิ และ กลิ่นกุหลาบ , น้ำอบชาวบ้าน , น้ำอบนางลอย