จุดชีพจรของการทาโลชั่นน้ำหอมให้ติดทน?

การทาโลชั่นน้ำหอมเพื่อให้ความหอมติดผิวกายได้ทนนานนั้น ตามหลักที่แล้วหลายๆ คนใช้ได้ผลมักจะบอกว่าควรจะแต้มหรือทาโลชั่นน้ำหอมบริเวณจุดที่เป็นชีพจร ซึ่งจุดชีพจรก็คือ จุดที่เป็นการไหลผ่านของหลอดเลือดแดงใหญ่โดนจะมีความตื้นและอยู่ใกล้กับกระดูกมากพอที่จะกดสัมผัสถึงแรงดันได้ แต่หากมีการกดในหลอดเลือดแดงใหญ่ จะทำให้เกิดแรงดันของเลือดและมีการพองตัวต่อต้านจากมือ และนั่นจึงทำให้สามารถรู้สึกได้ถึงการเต้นของหัวใจ ซึ่งบริเวณนี้จะมีความร้อนแผ่กระจายออกมาซึ่งมีส่วนที่จะช่วยให้โลชั่นน้ำหอมที่ทาบนผิวมีกลิ่นหอมอ่อนๆ กระจายออกมาแบบหอมระเรื่อบางเบา เมื่อเทียบกับน้ำหอมจะมีความฟุ้งมากกว่าโลชั่นน้ำหอมนั่นเอง
จุดชีพจรของการเพิ่มเสน่ห์ความหอม
การทาโลชั่นน้ำหอมที่จุดชีพจรไม่เพียงแค่การแต้มเฉพาะข้อมือด้านในเท่านั้น หากแต่ยังมีบริเวณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บริเวณหลังหู ซอกคอ ข้อพับที่เข่าและข้อศอก หรือแม้แต่ร่องอกซึ่งแต่ละจุดจะทำให้น้ำหอมมีกลิ่นหอมๆ กระจายออกมาได้แบบตลอดวัน โดยแต่ละกลิ่นจะค่อยๆ จางลงไปตามสภาพอากาศและตามสภาพความแรงของกลิ่นโลชั่นน้ำหอม ซึ่งหากใครต้องการเพิ่มกลิ่นหอมๆ ให้ผิวกายได้อย่างต่อเนื่องก็สามารถเลือกเติมความหอมในระหว่างวันได้ โดยโลชั่นน้ำหอมมีขนาดพกพาที่สามารถนำติดตัวหรือพกไปไหนมาไหนค่อนข้างสะดวก ทำให้เลือกการเพิ่มความหอมได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการทาโลชั่นน้ำหอมสามารถทาหรือแต้มในจุดสัมผัสหรือจุดชีพจรตามที่ต้องการ ก่อนที่คุณจะแต่งตัวและใส่เครื่องประดับ เพื่อให้เกิดความสะดวกในการแต้มตามจุดต่างๆ ซึ่งสามารถทาผิวหรือจุดชีพจรได้หลังจากอาบน้ำเสร็จในขณะที่ผิวหมาดๆ เพื่อทำให้โลชั่นน้ำหอมสามารถซึมซาบเข้าสู่เซลล์ผิวได้เร็วขึ้น ปล่อยทิ้งไว้สักครู่แล้วจึงสวมเสื้อผ้าตามปกติ
ทริคการทาโลชั่นน้ำหอมตามจุดชีพจรหลักๆ
บริเวณด้านบนของใบหู
นอกจากการทาโลชั่นน้ำหอมบริเวณข้อมือแล้ว หลายคนยังนิยมทาโลชั่นน้ำหอมบริเวณหลังหูโดยเฉพาะบริเวณด้านบนอีกด้วย เพราะถือว่าเป็นจุดที่ผิวมีความชุ่มชื้น และสามารถทำให้โลชั่นน้ำหอมติดทนได้
บริเวณข้อพับ
เพราะความร้อนของบริเวณจุดชีพจรอย่างบริเวณข้อศอกหรือบริเวณข้อพับที่เข่าทำให้กลิ่นของน้ำหอมฟุ้งกระจายได้ ซึ่งถือเป็นอีกจุดชีพจรที่เหมาะสำหรับการทาโลชั่นน้ำหอมเช่นกัน เพราะในช่วงระหว่างที่มีการขยับร่างกาย ไม่ว่าจะเดินหรือขยับขา จะทำให้กลิ่นของโลชั่นน้ำหอมมีความกระจายออกมาด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ บางเบา
นอกจากนี้การทาโลชั่นน้ำหอม ยังสามารถแต้มที่บริเวณต้นขาด้านในก็ได้เช่นกัน เพราะในระหว่างที่คุณเดิน หรือเคลื่อนไหวร่างกาย จะทำให้เกิดความร้อนที่บริเวณต้นขาทั้งสองข้าง โดยจะช่วยให้กลิ่นของโลชั่นหอมติดผิวกายหอมทนขึ้น