กลิ่นหอมๆ ของน้ำหอมสำหรับใช้งานต่างๆ นอกจากประโยชน์ของการทำให้กลิ่นกายมีความหอมแล้ว น้ำหอมยังมีประโยชน์และการนำไปใช้ได้อีกหลายๆ อย่าง ซึ่งถือเป็นการต่อยอดของการกระจายกลิ่นและการสัมผัสได้เป็นอย่างดี ซึ่งน้ำหอม มีส่วนผสมที่เป็นสารสกัดประเภทน้ำมันที่สกัดได้จากพืชที่มีกลิ่นหอมต่างๆ ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันและยังมีส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วยในการกระจายกลิ่นอย่างแอลกอฮอล์ และยังมีน้ำมันหอมอีกหลากหลายชนิดที่ผสมอยู่ในน้ำหอมขวดเดียวกันอีกด้วย เพื่อให้น้ำหอมมีกลิ่นที่หอมแปลก หอมลึก หอมเข้มข้น ต่างจากการปรุงกลิ่นแค่พืชหรือดอกไม้ชนิดเดียว โดยคุณสามารถสร้างกลิ่นหอมๆ ให้ร่างกายรวมทั้งนำมากระจายกลิ่นในหลากหลายรูปแบบที่ต่างมีวิธีใช้งานที่ต่างกัน แต่จะให้ความหอมใกล้เคียงกันอีกด้วย ราวกับว่าคุณกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางสปาที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมๆ ของหมู่แมกไม้นานาพรรณทีเดียว
1.การสูดดมโดยตรง
น้ำหอมทั่วๆ ไปที่ใช้สำหรับฉีด ปะพรหมบนร่างกาย หากต้องการสูดดมหรือสัมผัสกลิ่นแบบใกล้ๆ นอกจากจะฉีดตามจุดสำคัญของร่างกายแล้ว ยังฉีดที่บริเวณจุดชีพจร เพื่อทำให้คุณสามารถสูดดมได้อย่างสบายๆ หากเป็นครีมน้ำหอมก็สามารถแต้มตามจุดต่างๆ อย่างข้อมือ ร่องอก หลังหู ข้อพับแล้วสูดดมกลิ่นโดยตรงก็ได้ หรือจะใช้สำลี หรือผ้าชุบน้ำอุ่นๆ ชุบน้ำมันหอมระเหย แล้วสูดดมจากขวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการต่างๆ อย่างโรคหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล ฯลฯ ก็ได้เช่นกัน
2.เตาน้ำมันหอมระเหย
น้ำหอมที่อยู่ในรูปน้ำมันหอมระเหย สามารถแตกยอดนำมาใช้งานได้หลายวิธี วิธีที่ไม่เคยตกเทรนด์คือ การหยดน้ำมันหอมระเหย 15-20 หยด ลงในเตาต้มที่มีน้ำต้มพร้อมกับจุดเทียนไว้ใต้เตา การใช้น้ำมันหอมวิธีนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศ และกลิ่นของน้ำหอมจากน้ำมันจะค่อยๆ ระเหยในวงกว้าง ช่วยทำให้ผ่อนคลายความเครียด รักษาอาการนอนไม่หลับ
3.ใช้นวดตัว
นอกจากจะทำให้ร่างกายมีกลิ่นหอมๆ จากน้ำหอมแล้ว การใช้น้ำมันหอมระเหยมานวดตัว ยังมีส่วนช่วยแก้อาการปวดเมื่อกล้ามเนื้อได้อีกด้วย แค่ผสมน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบลงในน้ำมันงา หรือน้ำมันโจโจบา น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว จากนั้นค่อยๆ นำมาใช้นวดทั่วร่างกาย เพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อย และยังช่วยคลายกล้ามเนื้อ หรือใช้แก้อาการปวดข้อก็ได้
-
น้ำหอม Pink Apple Eau de Parfum เป็นกลิ่นน้ำหอมที่จะทำให้ความรู้สึกของคุณ เหมือนได้เข้าไปอยู่ในฤดูใบผลิของ เซ็นทรัลปาร์ค ที่เรียกได้ว่าให้ความรู้สึกร่าเริง บวกกับความอ่อนหวานมีเสน่ห์ จากกลิ่นหอมของผลไม้ทีมีรสหวานฉ่ำที่มาพร้อมกับดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหลากสไตล์ เพราะกลิ่นของเกรฟฟรุตที่ออกเป็นรสหวานอมเปรี้ยวแบบซาบซ่าจะทำให้คุณสดชื่นตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะเมื่อปิดท้ายด้วยกลิ่นพันธุ์ไม้สีเหลืองอ่อน
-
น้ำหอมกลิ่นดอกลาเวนเดอร์ Lavender Eau de Parfum สัมผัสถึงความสุขเหมือนอยู่กลางทุ่งลาเวนเดอร์ นิยมใช้กันโดยทั่วไป ด้วยคุณสมบัติในการผ่อนคลาย และยังช่วยระงับความตึงเครียดและทำให้หลับสบาย เคลิบเคลิ้มไปกับกลิ่นหอมเย็นๆ อุดมไปด้วยกลิ่นหอมผ่อนคลาย และยังเลื่องชื่อในสรรพคุณการฆ่าเชื้อ สามารถรักษาบาดแผลเล็กๆ แค่พียงสูดดม ก็สามารถช่วยลดอาการเจ็บคอและหลอดลมได้ นอกจากนี้ น้ำหอมกลิ่น ดอกลาเวนเดอร์จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงความสุขและความทรงจำเมื่อยามหลับตา และได้สูดกลิ่นกรุ่นของน้ำหอมกลิ่น ดอกลาเวนเดอร์ที่พัดผ่าน เหมือนคุณอยู่ท่ามกลางทิวทุ่งลาเวนเดอร์ อย่างแท้จริง
-
น้ำหอม Pretty Eau de Parfum ด้วยคุณสมบัติของน้ำหอมกลิ่นนี้ ที่ถูกสร้างสรรค์โดยนักปรุงน้ำหอมที่ มีการพัฒนากลิ่นให้เหมาะกับการใช้งาน ซึ่ง เปิดตัวด้วยสายลมที่สดชื่นจากกลิ่นของส้มแมนดาริน, ดอกส้มและน้ำลูกพีช ,ดอกมะลิ, ดอกลิลลี่, ดอกพิโอนี่และดอกไอริส โดยมีกลิ่นที่โดดเด่นเด้งออกมาจากน้ำหอมมากที่สุดคือกลิ่นดอกพิโอนี่ ซึ่งเป็นน้ำหอมที่เหมาะสำหรับช่วงกลางวัน และเหมาะกับฤดูใบไม้ผลิ
4.ใช้ทาบำรุงผิว
จะใช้โลชั่นน้ำหอมสำหรับทาเพื่อบำรุงผิวก็ได้เช่นกัน เพราะปัจจุบันมีโลชั่นน้ำหอมมากมายหลายกลิ่น ที่จะช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี และมีกลิ่นหอมติดกายได้ดี แค่เลือกกลิ่นหอมๆ ที่ชอบจากนั้นใช้ทาบำรุงผิวให้ทั่วในบริเวณที่ต้องการ แค่นี้ก็จะทำให้ผิวกายมีเสน่ห์ของความหอมฟุ้งไปทั่วแล้ว
5.ก้านไม้หอม
การใช้น้ำหอมกระจายกลิ่น ยังมีอีกสองวิธีคือ การใช้ก้านไม้หอม และเครื่องพ่นอโรมา ที่สามารถกระจายกลิ่นได้ดีไม่แพ้ประเภทอื่นๆ วิธีใช้ก็ง่ายไม่ยุ่งยากแค่มีน้ำหอมสำหรับก้านไม้มาปักเพื่อดูดกลิ่นและกระจายกลิ่นไปให้หอมฟุ้งทั่วห้อง รวมทั้งการใช้เครื่องพ่นที่จะดูดเอาน้ำหอมแล้วทำการพ่นเป็นละอองที่เล็กสุดๆ แล้วกระจายกลิ่นความหอมให้ฟุ้งไปทั่วเช่นกัน
5 แนวทางการเลือกกระจายกลิ่นหอมๆ ของน้ำหอมที่สามารถนำมาใช้ได้หลากหลายรูปแบบ ที่แต่ละชนิดจะมีการใช้งานแตกต่างกัน แต่จะให้ความหอมเหมือนๆ กัน