ปัจจุบันน้ำหอมเข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนเราทุกวัน ทุกเวลา น้ำหอมที่นิยมมากที่สุดในตอนนี้คือน้ำหอมเกาหลีซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องสำอางที่ควรมีติดตัว เพราะน้ำหอมเป็นสิ่งที่แสดงความเป็นตัวคุณ รสนิยม และอารมณ์ น้ำหอมสื่อความต้องการ และยังสร้างแรงดึงดูดอันน่าประทับใจให้เพศตรงข้ามได้ดีอีกด้วยค่ะ
1.ควรเลือกน้ำหอมหลายๆกลิ่นโดยไม่มึนเวียนหัว
การที่เลือกน้ำหอมมากกว่าหนึ่งกลิ่น ควรใช้ข้อมืออีกข้างหนึ่ง และถ้าลองน้ำหอมมากกว่า 2 กลิ่นนั้น บริเวณที่ควรฉีดน้ำหอมคือบริเวณแขนที่ไล่จากข้อมือไปเรื่อยๆนั่นเอง สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่มีผิวที่แพ้น้ำหอมให้ฉีดน้ำหอมลงบนผ้าเช็ดหน้าแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้าแทนที่จะฉีดลงบนผิวตรงๆ วิธีนี้ช่วยได้นะค่ะ และเราก็ไม่ควรที่จะตัดสินใจเลือกซื้อน้ำหอมทันที เราควรทิ้งไว้สัก 20 นาที แต่ถ้าเป็นไปได้อยากให้เพื่อนๆ ทิ้งไว้สักประมาณ 1ชั่วโมงค่ะ แล้วค่อยตัดสินใจเลือก เพราะกลิ่นบางกลิ่นให้กลิ่นแรกที่ฉุน แต่กลิ่นที่เป็นของน้ำหอม อาจจะออกมาหอมที่หลังก็เป็นได้ค่ะ
2.ควรเลือกน้ำหอมตามความทนนานของกลิ่น
น้ำหอมมีหลายชนิดมีความทนนานของกลิ่นที่ต่างกันไป
- Eau de Cologne (EDC) คือน้าหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในสัดส่วนที่ 3-5% กลิ่นทนนาน 6-12 ชม.
- Eau de Toilette (EDT) คือน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในสัดส่วนที่ 4-8% กลิ่นทนนาน 10-24 ชม.
- Eau de Parfum (EDP) คือน้ำมันหอมที่มีส่วนผสมของน้ำหอมในสัดส่วนที่ 15-18% กลิ่นหอมนาน 24-48 ชม.
ความฉุนของกลิ่น EDP>EDT>EDC
ความทนนานของกลิ่น EDP>EDT>EDC
-
น้ำหอม Pretty Eau de Parfum ด้วยคุณสมบัติของน้ำหอมกลิ่นนี้ ที่ถูกสร้างสรรค์โดยนักปรุงน้ำหอมที่ มีการพัฒนากลิ่นให้เหมาะกับการใช้งาน ซึ่ง เปิดตัวด้วยสายลมที่สดชื่นจากกลิ่นของส้มแมนดาริน, ดอกส้มและน้ำลูกพีช ,ดอกมะลิ, ดอกลิลลี่, ดอกพิโอนี่และดอกไอริส โดยมีกลิ่นที่โดดเด่นเด้งออกมาจากน้ำหอมมากที่สุดคือกลิ่นดอกพิโอนี่ ซึ่งเป็นน้ำหอมที่เหมาะสำหรับช่วงกลางวัน และเหมาะกับฤดูใบไม้ผลิ
-
น้ำหอม Poppy Love Eau de Parfum ที่ประเดิมความหอมแรกด้วยกลิ่นหอมของแนวดอกไม้และผลไม้ ด้วยความที่มีความหอมมากมาย ยามที่ได้ฉีดจนทำให้ผู้คนรอบข้างได้กลิ่นแล้ว จะทำให้จังหวะหัวใจเต้นแรงขึ้น เพราะการได้ฉีดน้ำหอม จะทำให้รู้สึกสดชื่น ซึ่งเมื่อฉีดไปแล้ว คุณจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมของดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานเต็มที่ และตบท้ายความอบอุ่นเย้ายวนที่ชวนโรแมนติกด้วยกลิ่นหอมแบบวานิลลา
3.ควรเลือกน้ำหอมที่มีเวลาเหมาะสมที่จะไปซื้อมาใช้
การเลือกซื้อน้ำหอมที่จริงแล้วก็สามารถซื้อได้ทุกที่ทุกเวลา ขึ้นอยู่กับรสนิยม และช่วงโอกาสที่จะใส่น้ำหอมนั้นๆ แต่โดยทั่วไปควรเข้าใจว่าน้ำหอมกลิ่นหนึ่งอาจเหมาะกับเวลากลางวัน และอีกกลิ่นหนึ่งอาจเหมาะกับเวลากลางคืน หรือน้ำหอมที่มีกลิ่นอ่อนๆ ก็เหมาะที่จะใช้ในหน้าร้อนส่วนหน้าหนาวก็ควรใช้น้ำหอมที่มีกลิ่นแรงมากขึ้น และเกร็ดการเลือกน้ำหอมโดยทั่วไปเป็นดังนี้ค่ะ
- ไม่ควรออกกำลังกายให้เหนื่อยมากเกินไป
- ไม่ควรไปเลือกซื้อน้ำหอมในช่วงที่เราเพิ่งจะฟื้นจากอาการเจ็บป่วย หรือไม่สบาย เพราะจะมีผลต่อการรับรู้กลิ่นทำให้กลิ่นน้ำหอมที่เราสัมผัสเพี้ยนไปจากความเป็นจริง
- ก่อนที่เราจะลองน้ำหอมถ้าเป็นไปได้ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด มีกลิ่นฉุน
4.ควรเลือกกลิ่นของน้ำหอมให้เหมาะสมกับบุคลิกของคุณ
- ถ้าคุณเป็นหนุ่มที่ค่อนข้าง ขรึม สุภาพและมีความมั่นคงสูง คุณควรเลือกน้ำหอมกลิ่นอบอุ่น Classic น้ำหอมกลิ่นนี้ทำให้มีความรู้สึกลึกซึ้งอบอุ่นค่ะ
- ถ้าคุณเป็นคนอ่อนหวาน นุ่มนวล คุณควรเลือกน้ำหอมกลิ่น Romantic น้ำหอมที่มีกลิ่นแนวโรแมนติก มันจะมีกลิ่นที่ให้ความรู้สึกลึกซึ้งและอบอุ่น
- ถ้าคุณเป็นคนร่าเริงแจ่มใส สบายๆ คุณควรเลือกน้ำหอมกลิ่น Fresh น้ำหอมที่มีกลิ่นแนวสดชื่น มักจะมีกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสดชื่นเย็นปลอดโปร่ง และสบายๆ บ่งบอกบุคลิกที่ค่อนข้างเป็นกันเอง น้ำหอมกลุ่มนี้มักมีส่วนผสมหลักเป็นกลิ่นแบบใบไม้ใบหญ้า กลิ่นแบบผลไม้ตระกูลส้ม รวมทั้งกลิ่นดอกไม้จาง ๆ เล็กน้อย
- ถ้าคุณเป็นคนแนวทันสมัย คล่องแคล่วปราดเปรียว ตื่นตัว คุณควรเลือกน้ำหอมกลิ่น Sport น้ำหอมนี้มีกลิ่นแนวกระฉับกระเฉง มักจะมีกลิ่นที่ให้ความรู้สึกคึกคัก