เชื่อว่าบ้านไหนที่มีบริเวณหรือพื้นที่เพียงเล็ก ๆ น้อยๆ อาจจะต้องมีมุมเล็กๆ สำหรับพื้นที่สีเขียวกันอยู่บ้าง โดยเฉพาะการปลูกต้นไม้ หรือดอกไม้ ที่นอกจากจะสร้างความร่มรื่นและ สวยงามแล้ว ต้นไม้หรือดอกไม้บางชนิด ยังสามารถสร้างกลิ่นหอมๆ ได้อีกมากมาย บางบ้านมีดอกไม้สวยๆ บางบ้านปลูกพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษ แต่หากเลือกได้หลายคนอาจจะอยากปลูกต้นไม้ที่มีกลิ่นหอมๆ แน่ๆ เพราะหากได้ย่างกรายเข้ามาในบ้านตั้งแต่หน้าประตูแล้ว จะทำให้คุณได้รับรู้ถึงกลิ่นหอมๆ ฟุ้งไปทั่วทั้งบ้านอย่างแน่นอน มาดูวิธีปลูกต้นไม้เพื่อให้มีกลิ่นหอม ซึ่งจะทำให้บ้านคุณหอมฟุ้งเหมือนอยู่ในสปากันดีกว่า
ดูจุดยุทธศาสตร์เตรียมตัวก่อนลงมือปลูก
ก่อนจะทำการปลูกต้นไม่หอมๆ จะต้องดูด้วยว่าสภาพแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศของที่บ้านคุณเป็นเช่นไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรคำนึงก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะเลือกดอกไม้หรือต้นไม้หอม ๆ เพื่อนำมาปลูกในสวน เพราะแต่ละพื้นที่แต่ละบ้านก็จะมีสภาพอากาศที่แตกต่างกัน หากอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ สภาพอากาศค่อนข้างเย็นโดยเฉพาะบนยอดดอย ก็จะสามารถเลือกปลูกดอกไม้เมืองหนาวได้แบบชิลๆ หากอยู่ภาคกลาง หรือภาคใต้ ซึ่งมีอุณหภูมิสูงกว่าภาคเหนือ มีฝนตกชุกกว่า ก็อาจเลือกดอกไม้ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เพราะดอกไม้ทุกชนิดจะเติบโตได้ดี มักจะขึ้นอยู่กับความชื้น แสงแดด และปริมาณน้ำฝน รวมถึงสภาพภูมิอากาศ ที่สำคัญคือสิ่งแวดล้อมโดยรวมในแต่ละพื้นที่
เลือกดอกไม้ให้ตรงจุดประสงค์
หากต้องการเลือกดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม เพื่อให้ดอกไม้ส่งกลิ่นสดชื่นไปทั่วบ้านนั้น ก่อนจะปลูก เจ้าของควรต้องนึกถึงจุดประสงค์ในการปลูกก่อน ว่าอยากปลูกไม้ดอกเอาไว้ประดับสวน หรือเพื่อส่งกลิ่นหอมฟุ้งแค่บริเวณรอบ ๆ บ้าน หรือว่าต้องการตัดดอกไม้สวย ๆ หอม ๆ มาประดับแจกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสดชื่นในบ้านด้วย เพราะหากต้องการจัดแจกันดอกไม้เพิ่มในความหอมให้ทั่วบ้านแล้ว จะได้เลือกปลูกไม้ดอกยืนต้นหลาย ๆ ชนิด ที่จะให้ดอกที่สวยงาม และเหมาะจะนำไปจัดแจกัน เพื่อส่งผลทำให้บ้านมีความหอมและสดชื่นได้
ใส่ใจสุขภาพคนในบ้าน
ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมบางชนิด อาจทำให้คุณแพ้ได้ โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งควรเลือกปลูกชนิดดอกไม้หอมที่ไม่ทำให้ตัวเองหรือคนในบ้านเกิดอาการแพ้ และคัดจมูก หรือทำให้อาการของโรคภูมิแพ้กำเริบ วิธีตรวจสอบอาการแพ้คือ อาจ จะลองซื้อดอกไม้ชนิดที่อยากปลูกแล้วนำมาใส่แจกัน เพื่อทำการตกแต่งบ้านดูก่อน หากพบว่าคนในบ้านเกิดอาการแพ้จะได้ไหวตัวทันและจะได้ไม่เลือกปลูกดอกไม้ชนิดนั้น ๆ รวมไปถึงการปลูกดอกไม้หรือต้นไม้ในตระกูลเดียวกันกับดอกไม้ที่ทำให้คุณเกิดอาการแพ้ด้วย