ดูเหมือนว่าทุกวันนี้ขนมไทยจะถูกวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาบดบังซะจนมิด ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เจอแต่ขนม ประ เภทเบเกอร์รี่ หรือแบบสำเร็จรูปเข้ามาแทนที่ จึงทำให้ขนมไทยๆ สมัยก่อนจัดว่ากลายเป็นของหายาก และหากินได้ยากกว่าเมื่อก่อนมาก ซึ่งขนมไทยบางอย่างก็แทบหาคนทำไม่ได้แล้ว อาจจะเจอเฉพาะงานสำคัญๆ ในต่างจังหวัด หรืองานเทศกาลเฉพาะเท่านั้น ด้วยความพิถีพิถัน ความใส่ใจในรายละเอียด พร้อมกับกลิ่นหอมๆ ของอบเชย เทียนอบ หรือน้ำลอยดอก น้ำนมแมว ฯลฯ ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของเสน่ห์ของขนมไทย บวกกับรูปลักษณ์ที่ดูแปลกตาและสวยงาม ไม่น่าเชื่อว่า นับวันจะเริ่มสูญหาย และอาจเหลือเป็นแค่ในตำนานซึ่งอาจทำให้เด็กรุ่นใหม่ๆ ไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสความหอม อร่อย ที่เป็นขนมไทยๆ กันแน่
ขนมทองเอก
สมัยโบราณมีการนำทองคำเปลวมาตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ มาประดับไว้ด้านบนของ “ขนมทองเอก” ใช้วิธีการวางแผ่นทองคำเปลววางไว้บนแม่พิมพ์ก่อน จากนั้นค่อยเทขนมทองเอกลงในแม่พิมพ์ ปัจจุบันอาจไม่เห็นการนำทองคำเปลวมาตกแต่งขนมทองเอก เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ขนมทองเอกเป็นขนมที่อยู่ในตระกูลที่มีชื่อว่า “ทอง” เป็นขนมมงคล ซึ่งขนมในตระกูลนี้จะต้องใช้ความพิถีพิถันในการทำ เพราะเป็นขนมที่มีลักษณะสง่างาม และมีความโดดเด่นกว่าขนมชนิดอื่น เหมาะสำหรับใช้ในการนำไปประกอบเครื่องคาวหวานเพื่อถวายพระในงานมงคลต่างๆ อย่างงานบวช งานแต่งงาน หรืองานขึ้นบ้านใหม่ โดยมีความเชื่อว่างานมงคลจะต้องใช้เฉพาะขนมไทยที่มีชื่อไพเราะ และมีความเป็นสิริมงคล
ขนมจ่ามงกุฎ
“ขนมจ่ามงกุฎ” เป็นขนมที่ทำยาก และมีขั้นตอนในการทำสลับซับซ้อน นิยมทำกันเพื่อใช้ประกอบพิธีการที่สำคัญจริงๆ นิยมใช้เป็นของขวัญในงานเลื่อนยศหรือเลื่อนตำแหน่ง ถือเป็นการแสดงความยินดี และอวยพรให้มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน จ่ามงกุฎเป็นขนมไทยโบราณที่หารับประทานได้ยาก เพราะใช้เวลาในการทำนานพอสมควร สมัยโบราณจัดเป็นขนมในราชสำนักเป็นเครื่องเสวยสำหรับถวายพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานในรัชกาลที่ 2
ขนมเสน่ห์จันทน์
“ขนมเสน่ห์จันทน์” ที่คนโบราณนำความมีเสน่ห์ของผลจันทน์มาประยุกต์ทำเป็นขนม โดยนำผลจันทน์ป่นมาเป็นส่วนผสมทำให้มีกลิ่นหอมเหมือนผลจันทน์จึงให้ชื่อว่า “ขนมเสน่ห์จันทน์” ซึ่งเป็นคำที่มีสิริมงคลจะทำให้มีเสน่ห์ และคนรักคนหลง จึงทำให้ถูกนำมาใช้ประกอบในงานพิธีมงคลสมรส
ขนมทองพลุ
“ขนมทองพลุ” อีกหนึ่งขนมมงคลของไทย ซึ่งมีความหมายถึงความเจริญ มีชื่อเสียงและโด่งดังเหมือนพลุ มีต้นตำรับมาจากฝรั่งเศสโดยดัดแปลงมาจากขนมเอแคลร์ แต่ขนมทองพลุจะใช้วิธีทอด ซึ่งขนมทองพลุถูกจัดเป็นขนมชาววัง เพราะว่าสมัยก่อนคนที่จะได้กินขนมที่ใส่นม เนยนั้นจะมีแต่ชาววัง ข้าราชการชั้นสูงฯ ส่วนคนไทยแท้ดั้งเดิมที่เป็นไทยแท้ๆ พื้นบ้าน จะไม่ค่อยนิยมกินขนมชนิดนี้ เพราะกลิ่นนมหรือเนยมีกลิ่นเหม็นคาว ปัจจุบันถูกดัดแปลงให้มีทั้งไส้หวานและเค็ม
ขนมหยกมณี
เป็นชื่อขนมไทยโบราณชนิดหนึ่งมีสีเขียวใสแบบหินแก้ว ทำจากสาคูเม็ดเล็กกวนกับน้ำและน้ำตาล รับประทานคู่กับมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย เมื่อรับประทานแล้วก็จะรู้สึกถึงความนุ่มๆ เหนียวๆ มีกลิ่นใบเตยที่ส่งกลิ่นหอมๆ ให้รสที่เค็ม ๆ มัน ๆ ของมะพร้าว แต่เดิมขนมหยกมณี นิยมใช้สีเขียวจากใบเตยแต่ปัจจุบันมีการปรุงแต่งสีต่าง ๆ