ก.ค.11
หอมกลิ่นมะเขือเทศที่คุ้นเคย
การได้นึกถึงอดีตที่มันผ่านมา ทำให้เราได้กลับมารู้สึกถึงเรื่องราวและความทรงจำอีกครั้ง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของกลิ่น ซึ่งกลิ่นที่ว่านี้ก็คือ “กลิ่นมะเขือเทศ” ที่คุ้นเคย หากเป็นสมัยก่อน ตอนที่ยังเด็กๆ นั้น เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะคุ้นชินกับกลิ่นไข่เจียวที่มีมะเขือเทศ หรือหัวหอมใหญ่เป็นองค์ประกอบ เพื่อไม่ให้ไข่เจียวดูโล้น ๆ เกินไป ซึ่งแค่กลิ่นหอม ๆ ของไข่เจียวนี้ก็ทำเอาคนที่ได้กลิ่นฟินไปตาม ๆ กันแล้ว โดยเฉพาะเด็ก ๆ ซึ่งเมื่อคุณแม่ได้(แอบ)ใส่ มะเขือเทศ สีแดงลงไปในไข่เจียวด้วยแล้ว หากเด็กน้อยคนไหนรู้มาก ก็จะจัดการเขี่ยเจ้ามะเขือเทศอออกทันที
ซึ่งการที่เหล่าคุณแม่ได้ใส่มะเขือเทศลงในไข่เจียวนั้น เป็นเพราะว่า เมนูไข่เจียวเป็นเมนูที่ใคร ๆ ก็ทานได้ แม้แต่เด็กๆ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะมาจากกลิ่นหอม ๆ ของไข่เจียวก็เป็นได้ บวกกับการที่เด็ก ๆ ไม่ยอมกินผัก ทำให้คุณแม่ต้องหาวิธีเอามะเขือเทศใส่ในไข่เจียว ที่นอกจากจะสร้างสีสัน เป็นสีแดงแซมๆ เวลาที่ทอดไข่ออกมาแล้ว ซึ่งดูน่ารับประทานมาก แน่นอนว่าสำหรับเด็กๆ ที่เห็นไข่เจียวมะเขือเทศครั้งแรกอาจจะตื่นตาไม่น้อย ด้วยสีสันของไข่เจียวที่ดูแปลกตาไปมากกว่าที่เคยเห็น
แต่เชื่อเหอะ…คนไม่กินยังไงก็ไม่กิน แค่ได้กลิ่นมะเขือเทศตอนกำลังจะตักไข่เจียวเข้าปาก…นั่นล่ะ!! บอกเลยว่ากลิ่นของมะเขือเทศ ที่แม้จะไม่ใช่กลิ่นเหม็น แต่ด้วยความที่เป็นกลิ่นที่ผิดไปจากกลิ่นไข่เจียวหรือหัวหอมด้วยแล้ว..ทางเดียวที่จะเลี่ยงได้ก็คือ จัดการเขี่ยออกอย่างรีบด่วน แค่กลิ่นเด็ก ๆ ยังรู้สึกขยาดแล้วหากจะต้องหม่ำมะเขือเทศเข้าไป จะออกอาการอย่างไรกันนะ?? แต่คุณเชื่อไหมว่า?? เด็ก ๆหลายคนที่ชอบเขี่ยผัก หรือเขี่ยมะเขือเทศตอนเด็ก ๆ แต่โตมากลับมีความชอบในรสชาติ และกลิ่นที่หอมแบบแปลกๆ ซึ่งมันเป็นกลิ่นมะเขือเทศที่ลอยออกมาเตะจมูกจากจานอาหารได้แบบไม่น่าเชื่อ
การเปลี่ยนใจให้เด็กน้อยเหล่านั้น หันมาชอบมะเขือเทศ โดยเฉพาะกลิ่นมะเขือเทศที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งไม่ว่าจะนำไปปรุงอาหารอะไร กลิ่นของมะเขือเทศจะลอยมาแบบเนียนๆ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการได้เรียนรู้ถึงประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพและร่างกายนั่นเอง โดยเฉพาะในเรื่องผิวที่จะช่วยให้เต่งตึง เปล่งปลั่ง กระจ่างใส และใบหน้ามีเลือดฝาด เพราะเหตุนี้เองจึงทำให้เป็นที่มาของการหันมาชอบมะเขือเทศไปโดยปริยาย ซึ่งเชื่อว่ากลิ่นอายของไข่เจียวมะเขือเทศเองก็คงจะได้มีการสืบทอดเจตนารมณ์นี้ไปสู่รุ่นต่อ ๆ ไปอย่างแน่นอน
-
น้ำหอม Champ Paul Men Eau de Parfum ออกเดทครั้งแรกกับกลิ่นหอมที่แรงเวอร์ กลิ่นนี้มี จะมีกลิ่นของดอกไม้นำมา ซึ่งจะมีความเป็นMale ซ่อนอยู่แบบบาง ๆ แต่จะได้กลิ่นโชยมาเป็นระยะ ๆ ถือได้ว่าเป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นติดทนและ เข้มมาก จริง ๆ แค่ฉีดครั้งเดียวตั้งแต่เช้าก็จะทำให้ความหอมยาวหอมนานไปถึงช่วงเย็นเลยทีเดียว แต่เพราะความแรงของกลิ่น ทำให้เป็นกลิ่นที่บางคนชอบ แต่บางคนก็ส่ายหน้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นน้ำหอมที่มีชื่อเสียงและติดอันดับท็อปเท็นต้นๆ ของโลก
-
น้ำหอม Happy Women Eau de Parfum กลิ่นหอมสดชื่น ละมุน ชวนให้หลงใหล เป็นน้ำหอมที่ให้ความหอมอบอวลด้วยกลิ่นอายของความสุข ซึ่งเป็นน้ำหอมที่เหมาะสำหรับทุกคน ทุกอารมณ์ ที่มีการผสมผสานความหอมของมวลดอกไม้หลากหลายชนิดที่เลือกสรรมาอย่างดี ด้วยกลิ่นในตระกูลซีทรัส ที่ผสมผสานกับกลิ่นหอมบางเบาของกลีบดอกไม้ และกลิ่นของส้มแมนดาริน ตามมาด้วยกลิ่นหอมชวนให้หลงใหลจากดอกไม้ Boysenberry Bush Flower ซึ่งยังมีกลิ่นหอมของกลิ่นดอกไม้หอมสดชื่นด้วยไฮยาซินน้ำ ส่งผลทำให้กลิ่นนี้หอมสดชื่น สะอาด หวานละมุนด้วยกลิ่นดอกไม้แห่งความสุข