การใช้กลิ่นหอมบำบัดโรคหรือสุคนธบำบัด หรือที่เรียกกันว่า อโรมาเทอราปี (Aromatherapy) ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยรักษาโรคและผ่อนคลายจิตใจได้เป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงเสมอคือ รู้จักใช้กลิ่นหอมให้เกิดประโยชน์และปลอดภัยต่อร่างกาย ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลภาวะเป็นพิษ และการดูแลร่างกายอย่างเหมาะสม เพื่อส่งผลทำให้มีสุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งกลิ่นหอมถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี
การบำบัดโรคด้วยกลิ่นหอม เป็นการใช้น้ำมันหอมระเหยที่มีการสกัดจากพืชพรรณธรรมชาติ มาใช้ในการรักษาโรค ที่จะช่วยทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ซึ่งกลิ่นจากพืชและสมุนไพรจะช่วยดูแลระบบหายใจ โดยกลิ่นจากดอกไม้สกัดจะช่วยป้องกันอาการซึมเศร้า ควรรู้จักใช้น้ำมันหอมระเหยให้เกิดประโยชน์และต้องรู้จักเลือกกลิ่นที่ถูกใจ และมีคุณสมบัติตรงตามความต้องการและปลอดภัยต่อร่างกาย
กลิ่นบำบัดเป็นการบำบัดรักษาโรคและช่วยในการบรรเทาอาการต่างๆ ของร่างกายด้วยกลิ่นหอม มนุษย์สามารถสัมผัสและรับรู้กลิ่นได้มากกว่าหมื่นชนิด เมื่อร่างกายสูดกลิ่นจะผ่านประสาทรับกลิ่น โดยเข้าสู่กระเปาะรับกลิ่นที่ต่อกับระบบประสาทลิมบิค ซิสเท็ม ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมความทรงจำ อารมณ์ และกำหนดพฤติกรรม เมื่อมีการหายใจสูดอากาศไม่บริสุทธิ์ ก็ย่อมที่จะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ในการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติเป็นวิธีการในการนำกลิ่นมาใช้บำบัดรักษาโรค ซึ่งสามารถออกฤทธิ์กับทุกระบบใน ร่างกายและส่งผลต่อร่างกาย จิตใจ ซึ่งขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่มีความแตกต่างกันออกไปของกลิ่นในแต่ละชนิด ปัจจุบันมีการพัฒนาและค้นพบกลิ่นใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะนำมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด
กลิ่นความหอมจากดอกไม้สกัดเหล่านี้ ที่กลายเป็นน้ำมันหอมระเหย จะช่วยทำให้ร่างกายมีความสมดุล โดยเกิดปฏิกิริยาสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและจิตใจ ซึ่งมีทั้งแบบที่ใช้เพื่อการรักษาโรค และแบบที่ใช้เพื่อความงาม อาจใช้คู่กับการนวดเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายได้ดี ใช้ร่วมกับการรักษาทางการแพทย์เพื่อรักษาความสมดุลของของเหลวในร่างกาย ซึ่งจะทำให้อาการของโรคทุเลาลง และยังนำมาใช้ในด้านจิตบำบัด เพื่อช่วยในการกระตุ้นการทำงานของสมอง ที่จะส่งผลให้จิตใจสงบผ่อนคลาย และช่วยป้องกันอาการทางจิต และรักษาโรคเครียด โรคซึมเศร้า ส่วนน้ำมันหอมระเหยที่ถูกนำมาใช้เพื่อความงาม จะเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางต่างๆ
กลิ่นจากน้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากพืชและสมุนไพรมีส่วนช่วยให้สุขภาพแข็งแรง และส่งผลให้หัวใจทำงานได้ดี ซึ่งสารสกัดจากสมุนไพร หรือพืชที่ให้กลิ่นหอมคือ กลิ่นยูคาลิปตัส กลิ่นชา กลิ่นเปปเปอร์มินต์ กลิ่นมะนาว กลิ่นโหระพา และกลิ่นสะระแหน่ ฯลฯ กลิ่นเหล่านี้จะช่วยให้หายใจสะดวกและสามารถรักษาโรคหวัด ภูมิแพ้ หลอดลมอักเสบ ไซนัสและไอเรื้อรัง ได้
-
น้ำหอม Sexy Me Eau de Parfum มีเสน่ห์ เซ็กซี่ในทุกการเคลื่อนไหว เป็นน้ำหอมที่สื่อให้เห็นถึงพลังแห่งเสน่ห์ของคุณสาวๆ ที่มีอำนาจในการควบคุมให้ใครต่อใครได้หลงใหลในความเซ็กซี่ที่คุณเองก็สามารถสัมผัสได้ เพียงแค่จินตนาการถึงกลิ่นหอมของเหล่าพฤกษานานาพันธุ์ ที่เข้ามากระตุ้นอารมณ์แห่งความเย้ายวน ซึ่งพร้อมจะนำพาคุณเข้าไปสู่ในภวังค์และห้วงแห่งความฝันที่แสนอ่อนหวาน แต่แฝงด้วยความร้อนแรง และเซ็กซี่
-
น้ำหอม Rush Pink Eau de Parfum เสน่ห์เย้ายวนชวนหลงไหล เป็นน้ำหอมที่ให้กลิ่นที่มีความเย็นสดใส มีพลังและเย้ายวน แถมยังชวนให้อยากจะดมแล้วดมอีก มาพร้อมรูปทรงทันสมัยและมีกลิ่นผสมผสานของ palmwood, fressia ลิลลี่ของหุบเขา ซึ่งน้ำหอมกลิ่นนี้ออกมาเพื่อตอกย้ำความแรง และยังให้ความรู้สึกที่เซ็กซี่แก่ผู้ใช้ แต่เพิ่มความสดใสสบาย ขึ้นมา ทำให้สามารถเติมเต็มความหอมได้ในหลากหลายโอกาส ที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คุณมากขึ้น
-
น้ำหอม Tea Rose Eau de Parfum กลิ่นหอมโดดเด่นเน้นความเซ็กซี่แห่งมนต์เสน่ห์ ป็นน้ำหอมจาก IDOFRAGRANCE ซึ่งเป็นน้ำหอมผู้หญิงที่ให้กลิ่นหอมของมวลดอกไม้ โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 1977 เรียกได้ว่าเป็นน้ำหอมที่เก่าแก่ตัวหนึ่ง แต่ที่ทำให้รู้สึกหอมแบบโดดเด่นมากที่สุดคือกลิ่นดอกกุหลาบตามด้วยกลิ่นมะกรูด, ดอกซ่อนกลิ่น, ดอกลิลี่และไม้จันทน์หอม ซึ่งเมื่อรวมกันแล้ว จะทำให้น้ำหอม Tea Rose Eau de Parfums กลายเป็นกลิ่นที่หอมติดทนนานมาก 7-12 ชั่วโมงเลยทีเดียว