อีกไม่กี่วันก็ถึงเทศกาลวันฮาโลวีน 2019 ที่เรียกได้ว่ากลายเป็นเทศกาลแห่งความสนุกทุกวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี แม้จะเป็นเทศกาลของชาวต่างชาติ แต่คืนวันฮาโลวีนถือเป็นอีกหนึ่งสีสันของความสนุกสนานที่ทั่วโลกต่างหันมาให้ความสนใจ แม้แต่คนไทยเองก็เช่นกัน เพราะตามสถานที่ต่างๆ ทั้งแหล่งบันเทิง สถานให้บริการ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ฯลฯ ที่ต่างก็จัดธีมแห่งความหลอนในคืนฮาโลวีนเพื่อเอาใจผู้มาใช้บริการทุกปี
ประวัติคืนวันฮาโลวีน
บรรยากาศในคืนวันที่ 31 ตุลาคม เป็นงานฉลองเทศกาลวันฮาโลวีนของประเทศทางตะวันตก โดยจะมีเด็กๆ แต่งกายเป็นภูตผีปีศาจพร้อมกับชักชวนเพื่อนๆ ออกไปงานฉลอง โดยแต่ละบ้าน แต่ละสถานที่จะมีการประดับประดาแสงไฟ และที่สำคัญคือการแกะสลักฟักทองเป็นโคมไฟ ที่เรียกว่า Jack-o’-lantern (แจ็คโอ แลนเทิร์น )
วันฮาโลวีนมีจุดกำเนิดมาจากเทศกาลของชาวเซลติคโบราณ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Samhain มีที่มาจากชาวไอริชโบราณ ซึ่งถือกันว่าเป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อน ซึ่งเทศกาล Samhain มีขึ้นเพื่อฉลองจุดสิ้นสุดของช่วงสว่างแห่งปี และเข้าสู่ช่วงมืดของปีและยังถือกันว่าเป็นวันปีใหม่ของชาวเซลติคอีกด้วย ส่วนชาวบริตอนโบราณก็มีประเพณีคล้ายกันนี้ เรียกว่า Calan Gaeaf
-
มนต์เสน่ห์แห่งความหอมยามราตรีของน้ำหอม Midnight Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่ถูกดีไซน์ขึ้นมาสำหรับงานเลี้ยง สังสรรค์แฟนตาซียามค่ำคืน โดยจะให้กลิ่นอ่อนๆ แต่ก็ซ่อนความเปรี้ยวไปพร้อมๆกับการผสมผสานกับกลิ่นหอมของดอกไม้ ซึ่งเหมาะสำหรับสาวๆแฮงค์เอาท์ เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมที่คัดสรรมาจากเหล่าดอกไม้ยามค่ำคืน น้ำหอมมีความหอมของกลิ่นฟรุตตี้ ที่ออกมาในแนวซูกัสสีม่วงทำให้รู้สึกว่าได้กลิ่นหอมหวานอมเปรี้ยวและเซ็กซี่ เหมาะกับสาวๆที่ชอบท่องเที่ยวหรือตระเวณราตรี
-
น้ำหอม Fantasy Eau de Parfum หวานซ่อนเปรี้ยว เสน่ห์แห่งค้ำคืน เป็นกลิ่นหอมหวานเย้ายวนชวนฝันที่สาวๆ ทั่วโลก ต่างพากันฟันธงพร้อมกับยกนิ้วให้เรื่องความหวานหอมที่มีกลิ่นหอมจนน่าหม่ำ และที่สำคัญความทน และการกระจายตัวของกลิ่นที่เปิดตัวด้วยความเปรี้ยวอมหวานและหอมกลิ่น ลิ้นจี่ ควินซ์ และกีวี กลายเป็นกลิ่นที่มีความหอมหวานน่ากิน น่าหม่ำกับความหอมหวานจนเกือบละลาย
-
น้ำหอม Rush 2 Eau de Parfum เสน่ห์เย้ายวนชวนหลงใหล เป็นน้ำหอมที่ให้กลิ่นที่มีความเย็นสดใส มีพลังและเย้ายวน แถมยังชวนให้อยากจะดมแล้วดมอีกน้ำหอมที่มาพร้อมกลิ่นผสมผสานของ palmwood, fressia ลิลลี่ของหุบเขา ซึ่งน้ำหอมกลิ่นนี้ออกมาเพื่อตอกย้ำความแรง และยังให้ความรู้สึกที่เซ็กซี่แก่ผู้ใช้ แต่เพิ่มความสดใสสบาย ขึ้นมา ทำให้สามารถเติมเต็มความหอมได้ในหลากหลายโอกาส ที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คุณมากขึ้น
ชาวเซลท์โบราณเชื่อว่าเป็นวันที่โลกนี้และโลกหน้าโคจรมาอยู่ใกล้กันมากที่สุด ทำให้เหล่าวิญญาณสามารถผ่านเข้าออกได้อย่างอิสระ ทำให้ชนเผ่าบางกลุ่มเรียกว่าเป็นเทศกาลแห่งความตายหรือ “เทศกาลฮาโลวีน” ซึ่งในวันนี้วิญญาณของบรรพบุรุษผู้ล่วงลับจะได้รับการต้อนรับกลับบ้าน ในขณะที่วิญญาณร้ายจะถูกขับไล่ นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าการที่จะสามารถขับไล่วิญญาณร้ายได้ สามารถทำได้ด้วยการสวมชุดและหน้ากากผีรูปแบบต่างๆ ซึ่งมีจุดประสงค์คือการแฝงตัวเป็นวิญญาณร้ายเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย
เทศกาล Samhain หรือ วันฮาโลวีนยังเป็นวันแห่งการตุนอาหารไว้สำหรับฤดูหนาว และยังมีการเล่นรอบกองไฟในหลายพื้นที่ โดยจะมีไฟและแสงสว่างประเภทอื่นดับลง และบ้านแต่ละหลังจะจุดไฟในเตา ส่วนกระดูกของสัตว์ที่ใช้เป็นอาหาร จะถูกโยนเข้าไปในเปลวเพลิง หากมีกองไฟ 2 กองที่ถูกจุดไว้ข้างๆ กัน ผู้คนกับสัตว์ที่เลี้ยงไว้เป็นอาหารจะเดินวนระหว่างสองกองไฟซึ่งถือเป็นพิธีการชะล้าง
การเล่นทริค ออ ทรีท (Trick or Treat) ในคืน ฮาโลวีน
กลิ่นอายของการเล่น “ทริค ออ ทรีท” เป็นการละเล่นตามประเพณีของวันฮาโลวีนของพวกเด็กๆ โดยพวกเด็กๆ จะแต่งตัวและออกไปตามบ้านต่างๆ เพื่อขอขนมหรือลูกอมบางครั้งก็ขอเป็นเงิน ซึ่ง “ทริค ออ ทรีท?” คืออะไร? คำว่า ทริค (trick) หมายถึง หากเจ้าบ้านไม่ทำการ ‘treat’ คือมอบสิ่งของตามที่เด็กๆ ร้องขอ เด็กๆ ก็จะก่อกวนเจ้าบ้านหรือบริเวณที่พักอาศัย ส่วนบางพื้นที่ของไอร์แลนด์และสก็อตแลนด์เด็กๆ จะร้องเพลง หรือเล่าเรื่องผีเพื่อแลกกับการที่เจ้าบ้านยอม ‘treat’
สัญลักษณ์วันฮาโลวีน : ตะเกียงฟักทอง Jack-o’-lantern
ตำนานตะเกียงฟักทอง “แจ็คโอแลนเทิร์น” เป็นเรื่องเล่าโบราณ ซึ่งกล่าวถึงที่มาของชายชาวนาจอมเจ้าเล่ห์ ซึ่งสมัยนั้นซาตานจะออกตระเวนขอพืชผลจากชาวบ้าน และไม่มีบ้านไหนที่กล้าปฏิเสธเพราะกลัวต้องคำสาปของซาตาน แต่การขู่เข็ญของซาตานใช้กับแจ็คไม่ได้ เขาไม่กลัวและไม่เคยหยิบยื่นอะไรให้ซาตาน วันหนึ่งซาตานจึงแอบมาสำแดงตนให้แจ็คเห็นและหวังจะให้เปลี่ยนใจหันมาเกรงกลัวซาตาน
แต่เหตุการณ์กลับเป็นตรงข้าม แจ็คใช้อุบายหลอกล่อจนซาตานติดกับดักและหนีไปไหนไม่ได้ แจ็คไม่ยอมปล่อยซาตานจนกว่ามันจะรับปากว่า เมื่อเขาตายแล้วจะไม่นำวิญญาณเขาลงนรกเด็ดขาด โดยซาตานเองก็ไม่มีทางเลือกจึงต้องรับปาก และเมื่อแจ็คเสียชีวิตลงด้วยความเป็นคนชั่วเขาจึงไม่ได้ไปสวรรค์ ทำให้วิญญาณเขาล่องลอยไปยังปากทางนรกและพบกับซาตานคู่อริเก่าอีกครั้ง ซาตานจึงปล่อยวิญญาณของแจ็คไปตามสัญญาที่ให้ไว้ พร้อมแสงไฟส่องนำทางให้กับวิญญาณแจ็คที่ต้องเร่ร่อนและไม่มีที่ไปอย่างนั้นตลอดกาล
ทุกคืนฮาโลวีนวิญญาณของแจ็คจะเร่ร่อนไปในความมืด พร้อมแสงไฟส่องที่ครอบด้วยหัวผักกาด ต่อมาเมื่อเรื่องเล่าท่ากลายเป็นตำนานเข้ามาในอเมริกา จึงมีการเปลี่ยนมาใช้ผลฟักทองแทนจนถึงทุกวันนี้