หากพูดถึงวัฒนธรรมและเรื่องราวต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น บอกได้เลยว่าจะต้องมีชื่อของดอกซากุระ อยู่ ด้วยอย่างแน่นอน คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการชมซากุระมาก น่าแปลกทั้งๆ ที่มีดอกซากุระแทบทุกจังหวัด จนแทบจะกลายเป็นดอกไม้ประจำชาติเลยก็ว่าได้ แต่ทำไมคนญี่ปุ่นยังคงหลงเสน่ห์และให้ความสำคัญกับดอกซากุระขนาดนี้ด้วย ด้วยความสัมพันธ์ของญี่ปุ่นกับดอกซากุระ ที่แม้แต่ชาวต่างชาติเองก็ยังอยากจะสัมผัสถึงเสน่ห์ของดอกซากุระไปไม่น้อยกว่าคนญี่ปุ่นเช่นกัน
เห็นดอกซากุระในเกาหลีและญี่ปุ่น บานสะพรั่งสีชมพูอ่อนเข้ม สีชมพูปนขาวคละเคล้ากันไปตามสายพันธุ์ ดอกซากุระเป็นช่อๆที่มองแล้วเปรียบเสมือนคนที่กำลังมีความรักเบ่งบาน ราวกับสื่อให้รู้ว่า จากคนรู้จักได้เริ่มสร้างความรักจนกลายมาเป็นคนรักซึ่งจะต้องใช้เวลาและความจริงใจที่มีต่อกัน และเป็นความรักที่กำลังจะเบ่งบานสวยงามยิ่งใหญ่ประดุจดัง ดอกซากุระ ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นจะมีช่วงของดอกซากุระเบ่งบานตั้งแต่ปลายเดือน มีนาคมไปจนถึงเมษายน ซึ่งในจะบานเป็นช่วงต่อช่วงในแต่ละจังหวัดของญี่ปุ่น ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นได้เกือบทุกแห่ง เรียกว่าหากเป็นช่วงฤดูดอกซากุระบานแล้วรับรองว่าไม่มีพลาด เพราะในแต่ละเมืองจะบานไล่เลี่ยกันไป ด้วยความที่เป็นดอกไม้สีชมพู ทำให้หลายๆ คนมักจะเปรียบเทียบดอกซากุระว่าเป็นดอกไม้แห่งความรัก
ดอกซากุระถึงแม้จะมีช่วงชีวิตและความงามที่สั้นเพียงสิบกว่าวัน หากแต่ก็ยังถูกนำมากล่าวถึงในงานด้านศิลปะต่างๆมากมายๆ รวมถึงการเปรียบความงามของดอกซากุระกับความรักได้อย่างลงตัว ด้วยความหวานของสีชมพู แม้ดอกซากุระจะไม่ได้ถูกนำมามอบให้แก่กันในวันวาเลนไทน์แต่ก็ยังมีคู่รักอีกหลายๆ คู่ ที่มักจะมอบของขวัญ ที่มีสัญลักษณ์ หรือลวดลายต่างๆ ที่เป็นดอกซากุระอยู่ไม่น้อย ด้วยความที่เป็นเสมือนตัวแทนของชาวญี่ปุ่น ด้วยความที่เป็นดอกไม้สีชมพู ด้วยความที่เป็นตัวแทนแห่งความหวาน ของดอกไม้คลาสสิค ทำให้ดอกซากุระมักจะเป็นที่กล่าวถึงและนำมาเปรียบกับผู้ที่กำลังมีความรักนั่นเอง
เพราะเป็นดอกไม้แห่งความรัก ทำให้จิตรกรเองก็ได้จำความรู้สึกของความรักที่กำลังเบ่งบานราวกับดอกซากุระ และได้นำมาถ่ายทอดเป็นผลงานภาพวาดสไตล์ญี่ปุ่น นอกจากนี้ดอกซากุระยังเป็นสัญลักษณ์ของการผลัดเปลี่ยนฤดูกาลอีกด้วยจึงถือเป็นหลักฐานอย่างดีถึงความรักของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อซากุระ ซึ่งความชอบซากุระของชาวญี่ปุ่น ไม่เพียงแต่ในถูกนำมาถ่ายทอดในวงการศิลปะเท่านั้น หากแต่ในวงการอาหารก็ยังถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางด้วยเช่นกัน
-
ความหอมแห่งฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นสายแห่งธรรมชาติที่สวยงาม ของต้นซากุระบานสะพรั่ง ซึ่งคงไม่มีดอกไม้ไหนที่บ่งบอกถึงความงดงามของวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้ดีเท่ากับดอกซากุระ ด้วยการผสมผสานระหว่างดอกไม้บางเบา เบอร์กามอทหอมหวาน และมัสก์ ก่อให้เกิดความหอมที่อ่อนหวาน นุ่มนวล น่าทะนุถนอม
-
น้ำหอม Cherry Blossom Eau de Parfum สัมผัสกลิ่นหอมสดชื่นเหมือนอยู่ในดงซากุระ เป็นน้ำหอมผู้หญิงที่ให้ความหอมสดชื่นของกลิ่นเลมอนและชาเขียว ดอกซากุระ ด้วยแรงบันดาลใจที่ได้จากการรังสรรค์ของกลิ่นน้ำหอม Cherry Blossom Eau de Parfum ก็คือดอกซากุระ เพียงละอองของน้ำหอมที่ฉีดมาสัมผัสลงบนผิวของคุณ ก็จะทำให้กลิ่นของชาเขียวและดอกซากุระ ลอยลมมาถึงจมูก และชวนให้หลงใหลและอาจจะจินตนาการไปว่า กำลังเผลอหลับไปใต้ต้นซากุระ ที่สวนแห่งในประเทศญี่ปุ่นก็ได้
-
น้ำหอม Pink Apple Eau de Parfum เป็นกลิ่นน้ำหอมที่จะทำให้ความรู้สึกของคุณ เหมือนได้เข้าไปอยู่ในฤดูใบผลิของ เซ็นทรัลปาร์ค ที่เรียกได้ว่าให้ความรู้สึกร่าเริง บวกกับความอ่อนหวานมีเสน่ห์ จากกลิ่นหอมของผลไม้ทีมีรสหวานฉ่ำที่มาพร้อมกับดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหลากสไตล์ เพราะกลิ่นของเกรฟฟรุตที่ออกเป็นรสหวานอมเปรี้ยวแบบซาบซ่าจะทำให้คุณสดชื่นตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะเมื่อปิดท้ายด้วยกลิ่นพันธุ์ไม้สีเหลืองอ่อน