ทำไมดอกไม้สมัยนี้ไม่หอมเท่าสมัยก่อน? หลายคนอาจจะเคยตั้งข้อสงสัย ซึ่งหากเคยได้ดูหนังพีเรียดย้อนยุค จะเห็นว่ามีดอกไม้โบราณมากมาย ที่เห็นแล้วรู้สึกว่าได้กลิ่นหอมตามไปด้วย ซึ่งคนสมัยก่อนเองก็คงจะหาดอกไม้ไทย ๆ ที่มีกลิ่นหอม ๆ มาไหว้พระ หรือมามอบให้สาว ๆ หรือสาวๆ นำมาติดผมเพื่อประดับตกแต่งแทนกิ๊ปและยังให้กลิ่นหอม ทำให้หนุ่ม ๆ อยากจะดอมดมอีกด้วย เห็นแล้วทำให้รู้สึกว่า ทำไมดอกไม้สมัยก่อนดูเหมือนว่าจะมีความหอมมากมาย ซึ่งผิดกับสมัยนี้ หาดอกไม้หอมๆ ยากเหลือเกิน แถมยังต้องไปพึ่งพวกดอกไม้ฝรั่งอีกตะหาก
การจัดงานแต่งงานสมัยนี้มักจะมีดอกกุหลาบ และดอกไม้ชนิดอื่นๆ เยอะแยะมากมาย นอกจากจะทำเป็นซุ้มสำหรับงานแต่งแล้ว ยังประดับประดาตามมุมต่างๆ ด้วยดอกไม้อีกด้วย ในปัจจุบันหลายคนมักจะตั้งข้อสงสัยว่า ขนาดมางานแต่งที่มีการจัดซุ้มดอกไม้เยอะ และก็อยู่ใกล้ขนาดนี้ แต่ทำไมกุหลาบกับมะลิ ถึงไม่มีกลิ่นหอมนะ หรือมันมีความหอมด้วยกันทั้งคู่ เมื่อมาอยู่ใกล้กันทำให้กลิ่นกลายพันธ์ุได้ ดมใกล้ๆ ถึงได้กลิ่นดอกมะลิ แต่กุหลาบ เรียกว่าแทบจะไม่มีกลิ่นหอม ๆ แบบธรรมชาติหลงเหลืออยู่ด้วยซ้ำ แม้จะได้กลิ่นดอกมะลิ แต่กุหลาบ แทบไม่มีกลิ่นหอมด้วยซ้ำ
ดอกมะลิก็เหมือนกัน ดอกตูม ดอกบาน ที่ส่งกลิ่นหอมไม่เท่ากัน และเวลาที่ดอมดม กลิ่นหอม ก็ต่างกัน ซึ่งจริงๆ แล้วดอกมะลิจะหอมเมื่อดอกบาน หากเอาไปร้อยเป็นพวงมาลัยก็จะให้ความหอมสดชื่นของดอกมะลิมากมาย ยิ่งเอาไปแช่ตู้เย็นเพื่อรักษาความสด จะยิ่งทำให้กลิ่นของดอกมะลิติดตู้เย็นอีกด้วย คนสมัยก่อนที่ชอบกินน้ำเย็นๆ ชื่นใจ มักจะนำกลีบดอกกุหลาบ และดอกมะลิใส่ลงไปในขัน เพื่อลอยดอกไว้ที่นอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว ยังให้ความหอมอีกด้วย ยิ่งนำไปใส่ในตู้เย็นด้วยแล้ว รับรองว่าหอม เย็น ชื่นไปถึงปอด และตับไต ไส้พุงเลยจริงๆ
ส่วนความหอมของดอกมะลิหรือดอกกุหลาบ ที่หลายคนบอกว่าไม่หอมมากเหมือนสมัยก่อนนั้น น่าจะเป็นเพราะว่าดอกไม้ที่ขายทั่วไป ไม่ใช่พันธุ์ที่ดีที่สุดหรือเปล่า หรือมีการไปตั้งในกลิ่นที่มันแรงกว่า มีหลากหลายกลิ่นกว่า ทำให้กลิ่นตีกัน เหมือนกับคนที่ฉีดน้ำหอม พอต่างคนต่างฉีดคนละกลิ่นสองกลิ่น เมื่อไปอยู่รวมกัน แทบจะแยกไม่ออกเลยว่ากลิ่นไหนเป็นของใคร เผลอๆ สลับกลิ่นกันมาอีกตะหาก ส่วนดอกไม้ที่ให้ความหอมอย่างกุหลาบ หรือมะลิ เมื่อถูกเด็ดออกมาแล้วมีความหอมไม่มาก ซึ่งหากต้องการดมความหอมอย่างแท้จริงก็น่าจะเป็นดอกไม้ที่อยู่บนต้น แบบไม่ถูกตัดมาปักแจกัน และเป็นดอกไม้ที่อยู่ในสถานที่ ๆ พอเหมาะทั้งน้ำ แสงแดด หรืออากาศมากกว่า
ดอกไม้แต่ละชนิดเวลามันหอมจะหอมในแบบที่แตกต่างกัน ในช่วงเวลาที่ต่างกัน บางทีกลิ่นหอมที่แท้จริง อาจจะเป็นช่วงแรกแย้มในช่วงที่ยังสวยๆ แต่พอแก่แล้ว หรือใกล้เหี่ยว ก็ยังหอมอยู่ แต่เป็นความหอมแบบไม่เต็ม ซึ่งสมัยก่อนที่หลายคนบอกว่าดอกไม้จะหอมกว่าสมัยนี้ก็อาจเป็นเพราะมนุษย์เป็นมิตรกับธรรมชาติ และไม่มีแต่สารเคมีสารปรุงแต่ง เพื่อให้ได้มาซึ่งผลกำไรเหมือนสมัยนี้ ไม่ต้องเร่งดอก ใสปุ๋ยเคมีมากมาย เพียงแค่ใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก แบบธรรมชาติเท่านั้นเอง ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมดอกไม้สมัยก่อน ถึงได้มีความหอมมากกว่าดอกไม้สมัยนี้